จอฟ้า BlueScreen สุดฮิต การแก้ปัญหา
1.0xC000009C : STATUS_DEVICE_DATA_ERROR
เกิดจากมีการเรียกใช้งาน Bad Block หรือ Bad Sectors บน ฮาร์ดดิสก์
วิธีแก้ไข : ทำการตรวจสอบ Bad Sectors ของ Hard Disk ถ้าเกิด Bad Sector ให้ทำการเคลมหรือเปลี่ยน Harddisk ลูกใหม่
2.0X000000BE: Attempted Write To Read only Memory
เกิดจากการติดตั้งไดร์เวอร์ หรือ โปรแกรมผิดพลาด เช่น การใช้ไดร์เวอร์ติดตั้งไม่ตรงรุ่นกับอุปกรณ์
วิธีแก้ไข : ให้ทำการ uninstall โปรแกรมตัวที่ลงก่อนที่จะเกิดปัญหานี้ออกเสียก่อน ถ้าเป็นไดร์เวอร์ก็ให้ทำทำอัปเดตไดร์เวอร์ล่าสุดติดตั้ง
3.0x0000009F: DRIVER_POWER_STATE_FAILURE
เป็นการแสดงให้ทราบว่าไดร์เวอร์ บางตัวทำงานไม่ปกติ มักเกิดปัญหาในกรณีที่ถูกเรียกกลับมาใช้งานหลังจากที่พักโหมดสแตนบายด์ เป็นต้น
วิธีแก้ไข : ถ้าหากเกิดขึ้นหลังจากติดตั้งโปแกรมหรือไดร์เวอร์ที่ไม่สมบูรณ์สามารถแก้ไขได้โดยการลบโปรแกรมไดร์เวอร์ตัวดังกล่าวออก หรือ อัปเดตให้เป็นเวอร์ชั่นใหม่
4.0x0000003B: SYSYEM_SERVICE_EXCEPTION
เกิดขึ้นจากการติดตั้งไดร์เวอร์อุปกรณ์ตัวใหม่ ไปขัดแย้งกับ Kernal ของระบบ
วิธีแก้ไข : ให้ทำการอัปเดตไดร์เวอร์ของอุปกรณ์ตัวนั้นๆ จากเว็บไซต์ผู้ผลิต
5.0X000000F2: HARDWARE INTERRUPT STORM
อาการที่เกิดจากอุปกรณ์ที่ติดตั้งใหม่ มีการจัดตำแหน่งกับ IRO ผิดพลาดเนื่องจากจากไดร์เวอร์หรือ Firmware
วิธีแก้ไข : ให้ทำการถอนโปรแกรมตัวที่ลง ก่อนที่จะเกิดปัญหาหรือ ถ้าเป็นไดร์เวอร์ก็ให้ทำการหาไดร์เวอร์ล่าสุดมาติดตั้ง แต่ถ้าเป็น Service ต่างๆ ที่เปิดก่อนเกิดปัญหาก็ให้ทำการปิดหรือ Disable
6.0X000000EA: Thread Stuck In Device Driver
เกิดจากเครื่องจำทำงานในแบบวนช้าๆ กันไม่สิ้นสุด เช่น รีสตาท์วนไปมาตลอด หรือ แจ้ง Error ขึ้นมาไม่หยุด
วิธีแก้ไข : ตรวจสอบกำลังไฟฟ้าที่จ่าย มาจาก Power supply ของคุณว่า ถ้ากำลังไฟฟ้าไม่เหมาะกับอุปกรณ์ที่ใช้งานอยู่ให้เปลี่ยนใหม่ให้มากกว่าเดิม และตรวจสอบ
ดูรอยไหม้หรือเช็คอาการชิ้นส่วนว่ามีอันไหนเสียหายหรือป่าว
7.0X000 000C2: Bad Pool Caller
เกิดความขัดแย้งระหว่างระบบปฏิบัติการกับอัปเกรดอุปกรณ์ต่างๆ หรือไดร์เวอร์ของอุปกรณ์ต่างๆ หรือ ไดร์เวอร์ของอุปกรณ์ถูก
บล๊อคด้วยโปรแกรมแอนตีไวรัส
วิธีแก้ไข : ปิดการใช้งานแอนตี้ไวรัสก่อนการติดตั้งไดร์เวอร์ใหม่เสียก่อน
8.0X000 0007A: KERNRL_DATA_INPAGE_ERROR
เป็นการแสดงถึงข้อมูลของ kernel ว่าไม่สามารถอ่านไฟล์ไปยัง RAM ได้อย่างสมบูรณ์
วิธีแก้ไข : อัปเดตเฟรมแวร์หรือไดร์เวอร์ เพิ่มความเสถียรให้กับอุปกรณ์และลองตรวจสอบการตั้งค่าของอุปกรณ์ว่ามีการตั้งค่า เช่น การตั้งค่า Transfer rate ของ Virtual RAM แรมไปต่ำ-สูงไว้ไม่เหมาะสมรึป่าวหรือลองเช็คดูว่ามีสิ่งสกปรกติดอยู่ที่ตามอุปกรณ์และแผนวงจรรึป่าว
เรียกใช้วิธี Crash Boot หรือ Force shutdown หมายถึงการกดปุ่ม Power เพื่อปิดเครื่อง หลังจาก Windows Logo ของ Windows 10 ได้ปรากฏขึ้นมา ให้กดเพื่อปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ทำอย่างนี้ประมาณ 3-4 ครั้ง ดูก่อน นะครับ ว่า จะสามารถบูทเข้า Windows 10 รุ่นดังกล่าวได้ ไหม
1. เมื่อสามารถเข้าหน้าต่าง Choose an option
2. เลือกกดที่ Troubleshoot
3. กดที่ Advanced options
4. เลือกกดที่ Command Prompt
5. เมื่อเข้าหน้าต่าง Command Prompt เเล้ว ให้ พิมพ์ศัพท์ ว่า notepad
4. กดปุ่ม Enter
5.ให้คลิ๊กที่เเถบ File เลือกกดที่ Open
6. หลังจากนั้น คุณจะสามารถสังเกตว่า ระบบจะเเสดงไดร์ฟ ต่างๆ ขึ้นมา
7. เลือกกดที่ All files เพื่อให้ระบบเเสดงข้อมูลต่างๆ ทั้งหมด
8. เสียบ external USB Hard disk, USB Flash Drive, USB Thumb Drive ฯลฯ เพื่อโอนย้ายข้อมูล ไฟล์ เอกสาร สำคัญๆ ต่างๆ อย่างที่คุณต้องการ นะครับ
หรือ
ขั้นตอนที่ 1(ในกรณีหากเปิดเครื่อง PC/NB อยู่)
1. กดที่ปุ่ม Ctrl+Alt+Delete เเล้วกดปุ่ม Shift ไว้(hold it) หลังจากนั้น กดปุ่ม ไอคอนของปุ่ม Power เเล้วเลือกกด Restart เเล้วค่อยๆ วางปุ่มคีย์ Shift ที่คุณได้กดค้างไว้ก่อนหน้านี้ ระบบจะนำไปสู่หน้าต่าง Choose an option(คุณสามารถเลือก ตัวเลือกต่างๆ อย่างเช่น)
2. เลือกกดที่ Troubleshoot
3. กดที่ Advanced options
4. เลือกกดที่ Command Prompt
5. เมื่อเข้าหน้าต่าง Command Prompt เเล้ว ให้ พิมพ์ศัพท์ ว่า notepad
4. กดปุ่ม Enter
5.ให้คลิ๊กที่เเถบ File เลือกกดที่ Open
6. หลังจากนั้น คุณจะสามารถสังเกตว่า ระบบจะเเสดงไดร์ฟ ต่างๆ ขึ้นมา
7. เลือกกดที่ All files เพื่อให้ระบบเเสดงข้อมูลต่างๆ ทั้งหมด
8. เสียบ external USB Hard disk, USB Flash Drive, USB Thumb Drive ฯลฯ เพื่อโอนย้ายข้อมูล ไฟล์ เอกสาร สำคัญๆ ต่างๆ อย่างที่คุณต้องการ นะครับ
ทั้งนี้ทั้งนั้น ในช่วงระยะเวลาที่ทางทีมงานของเรากำลังรอข้อมูลเพิ่มเติมเเละฟีดเเบ็คจากทางคุณอยู่ในขณะนี้ คุณอาจลองทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ดูก่อน นะครับ;
(ลองเข้าสู่ Windows 10 โดยใช้วิธี Safe Mode มี 2 วิธี เพื่อเข้า safe mode คุณสามารถเลือกทำตามขั้นตอนที่คุณสะดวก นะครับ)
ขั้นตอนที่ (i) ในกรณีหากเปิดเครื่อง PC/NB อยู่
1. กดที่ปุ่ม Ctrl+Alt+Delete เเล้วกดปุ่ม Shift ค้างไว้(hold it) หลังจากนั้น กดปุ่ม ไอคอนของปุ่ม Power เเล้วเลือกกด Restart หลังจากนั้นสักพักจึงค่อยวางปุ่ม Shift ระบบน่าจะนำไปสู่หน้าต่าง Choose an option
2. เลือกกดที่ Troubleshoot
3. กดที่ Advanced options
4. กดที่ Startup Settings
5. กด Restart
6. กดปุ่ม F5
7. เลือกกดหมาย 5 (Enable safe mode with networking )
8. หน้าต่าง Administrator จะแสดงขึ้นมา ก่อนที่จะเข้า Safe mode
9.ให้สังเกตว่า สามารถเปิดใช้งาน Windows 10 ของคุณใน Safe Mode ได้ไหม
10.ถ้าหากสามารถเข้าใน Safe Mode with Networking ได้ อาจลอง Uninstall ไดร์เวอร์ของการ์ดจอจาก Device Manager เเล้ว Restart เครื่อง PC/Notebook ของคุณเพืื่อให้ Windows ค้นหาไดร์เวอร์ที่เหมาะสมเอง นะครับ
หรือ
ขั้นตอนที่ (ii) เข้าสู่ Safe Mode โดยเรียใช้วิธี Crash Boot
1.กดปุ่ม Power(อาร์ดเเวร์) 3-4 ครั้ง โดยกด Power Button เพื่อบูท เข้าสู่ Windows พอเห็น Windows เเสดงขึ้นมา ก็กด รีบูทอีก ทำขั้นตอนดังกล่าวอยู่ประมาณ 3-4 ครั้ง จนกว่า หน้าต่าง Choose an option จะเเสดงขึ้นมา หลังจากนั้นให้ดำเนินตามขั้นดังต่อไปนี้
2. เลือกกดที่ Troubleshoot
3. กดที่ Advanced options
4. กดที่ Startup Settings
5. กด Restart
6. กดปุ่ม F5
7. เลือกกดหมาย 5 (Enable safe mode with networking )
8. หน้าต่าง Administrator จะแสดงขึ้นมา ก่อนที่จะเข้า Safe mode
9.ให้สังเกตว่า สามารถเปิดใช้งาน Windows 10 ของคุณใน Safe Mode ได้ไหม
10.ถ้าหากสามารถเข้าใน Safe Mode with Networking ได้ อาจลอง Uninstall ไดร์เวอร์ของการ์ดจอจาก Device Manager เเล้ว Restart เครื่อง PC/Notebook ของคุณเพืื่อให้ Windows ค้นหาไดร์เวอร์ที่เหมาะสมเอง นะครับ
หลังจากนั้น ถ้าหากปัญหาดังกล่าว ยังไม่ถูกแก้ไขได้ ให้ลองทำตามขั้นตอนที่ 3 ดังข้างล่างนี้ นะครับ
ขั้นตอนที่ 3
1.กดปุ่ม Windows(logo)+X
2.แล้งเลือก กดที่ Command Prompt(Admin)
3.หากหน้าจอไดแสดง Do you want to allow the following program to make changes to this computer? ให้กดYes
4.เมื่อเข้าสู่หน้าจอ Administrator:Command Prompt แล้ว ให้พิมพ์ sfc /scannow
5.รอสักพักหนึ่งจนกว่าการทำงานของ sfc /scannow จนจบ และให้ลองสังเกตว่ามี มีปัญหาหรือไม่มี(หาก มีข้อความผิดพลาด อย่าง corrupted ฯลฯ ให้จดเเล้วเเจ้งกลับมายังทางทีมงานของเราอีกครั้ง นะครับ)
6.หลังจากนั้น ให้ทำตามขั้นตอนที่ 4
ขั้นตอนที่ 4 (โดยรวมๆ เเล้วสามารถเเก้ไขปัญหาอาการ Windows 10 ทำงานไม่ปกติหรือบกพร่อง นะครับ)
รัน Restore health เพื่อ restore image ล่าสุดของ Operating system
1. กดปุ่ม Windows + X
2. เลือกกดที่ Command Prompt (Admin)
3. คลิ๊กที่กล่อง User Account Control ที่ได้โชว์ขึ้นมา
4.พิมพ์ศัพท์ว่า DISM.exe /Online /Cleanup-image /Restorehealth
5. เเล้วกดปุ่ม enter (อาจจะใช้งานเวลาปรามาณ 10 – 15 นาที)
6. หากผลเเจ้งว่ามี corrupt file(ไฟล์ที่เสียหาย เเละไม่สามารถซ่อมเเซมได้ นั้นหมายถึงว่า ระบบปฏิบัติการรุ่นนั้นๆ อยู่ในสถานะที่ไม่สมบูรณ์(could be the serious Operating system corruption)
7.หลังจากนั้นให้ทำตามขั้นตอนที่ 5
ขั้นตอนที่ 5(ทำตามขั้นที่ 3 ที่เคยทำอีกครั้งหนึ่ง)
1.กดปุ่ม Windows(logo)+X
2.แล้งเลือก กดที่ Command Prompt(Admin)
3.หากหน้าจอไดแสดง Do you want to allow the following program to make changes to this computer? ให้กดYes
4.เมื่อเข้าสู่หน้าจอ Administrator:Command Prompt แล้ว ให้พิมพ์ sfc /scannow
5.รอสักพักหนึ่งจนกว่าการทำงานของ sfc /scannow จนจบ และให้ลองสังเกตว่ามี มีปัญหาหรือไม่มี(หาก มีข้อความผิดพลาด อย่าง corrupted ฯลฯ ให้จดเเล้วเเจ้งกลับมายังทางทีมงานของเราอีกครั้ง นะครับ)
ในกรณี หากมี เเผ่น Recovery Disc หรือ เเผ่น Installation Media ของ Windows 10 อยู่กับคุณ
ขั้นตอนที่ 6 ในกรณี หากมีเเผ่น Installation Media(ไฟล์ ISO ของ Windows 10 ที่คุณได้สร้างไว้ ก่อนหน้านี้)
1.ใส่ เเผ่น CD/DVD ของ Windows 10
2.เมื่อเข้าสู่หน้าต่าง Install Now
3.คลิ๊กที่ Repair your computer
4.คลิ๊กที่ Advanced Options
5.เลือกคลิ๊กที่ Troubleshoot
6.เลือกคลิ๊กที่ Startup repair
7.ทำตามขั้นตอนฝคำสั่งที่ได้โชว์ขึ้นมาที่หน้าจอเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ จนจบ
*** ปัญหาที่เกิดเป็น Blue Screen ส่วนมากมาจากความผิดพลาดของอุปกรณ์ หรือไดร์เวอร์สำหรับอุปกรณ์หรือเรื่องไวรัสทำให้การทำงานผิดพลาด Blue Screen เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะว่ามีอยู่มากมาย
ช่างเครื่องคอมพิวเตอร์ ฝ่ายงานบริการเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา