การซ่อมคอมพิวเตอร์เบื้องต้น

การซ่อมคอมพิวเตอร์เบื้องต้น

คู่มือ รวมอาการเสียและแก้คอมพิวเตอร์เบื้อต้น เป็นอาการเสียของคอมพิวเตอร์ที่ช่างพบปัญหาอยู่เป็นประจำ เหมาะกับคนที่มีความรู้เรื่องอุปกรณ์ภายในคอมพิวเตอร์เป็นพื้นฐานแล้ว

จุดประสงค์

  • สามารถวิเคราะห์อาการเสียของคอมพิวเตอร์ได้
  • สามารถแก้ไขปัญหาคอมพิวเตอร์เสียด้วยตัวเอง
  • เหมาะกับบุคคลที่มีพื้นฐานระบบฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์อยู่แล้ว

 

  1. กำลังไฟ
  • อาการเสีย : เปิดคอมพิวเตอร์ไม่ได้

สาเหตุ : ไม่ได้ต่อคอมพิวเตอร์ลงเต้าเสียบที่ด้านหลัง

แนวทางการซ่อม : ตรวจดูให้แน่ใจว่าสายไฟนั้นเสียบอยู่ที่เต้าเสียบไปบนฝาผนัง และไฟ AC บนฝาผนังที่ลงสายกราวนด์ของคอมพิวเตอร์อย่างแน่นหนา

 

  • อาการเสีย : เปิดคอมพิวเตอร์ไม่ได้

สาเหตุ : คอมพิวเตอร์อาจอยูในโหมด Sleep

แนวทางการซ่อม :ตรวจสอบว่าปุ่ม เปิดเครื่องด่วน นั้นสว่างอยู่ และมีไฟสีเหลืองอำพัน ถ้าเป็เช่นนั้น ให้กดปุ่มดังกล่าวเพื่อออกจากโหมด Sleep

 

  1. ฮาร์ดดิสก์

อาการเสีย : ข้อความแสดงการผิดพลาดเกี่ยวกับดิสก์ที่ไม่สามารถบูตได้

สาเหตุ : คอมพิวเตอร์พยายามเริ่มระบบจากดิสเก็ตต์ที่ไม่มีซอฟต์แวร์ สำหรับเริ่มระบบ

การแก้ปัญหา : นำแผ่นดิสเก็ตต์ออกจากไดร์ฟเมื่อไฟแสดงสถานะบนไดร์ฟดับ แล้วทำต่อๆ ไป โดยการกดคีย์ใด ๆ

  1. แป้นพิมพ์
  • อาการเสีย : การทำงานของฮาร์ดไดร์ช้าลง

สาเหตุ : ไฟล์ข้อมูลที่เก็บอยู่บนฮาร์ดดิสก์ อาจอยู่กระจัดกระจาย

แนวทางการซ่อม : ตรวจสอบส่วนของข้อมูลที่หายไปโดยการรันโปรแกรม Disk Defragmenter เพื่อที่จะรันโปรแกรม Disk Defragmenter จากเดสก์ทอปของวินโดวส์ ให้ คลิกที่ปุ่ม Start แล้วชี้ไปที่ Programs จากนั้นชี้ไปที่ Accessories และชี้ไปที่ System Tools ท้ายสุดให้คลิกที่ Disk Defragmenter

  • อาการเสีย : ไฟแสดงการทำงานของอาร์คไดร์ไฟสว่างแต่ไม่กระพริบ

สาเหตุ : ไฟล์ข้อมูลที่เก็บอยู่บนฮาร์ดดิสก์ของคุณ อาจจะเสียหาย

แนวทางการซ่อม : ตรวจสอบส่วนของข้อมูลที่หายไปโดยการรันโปรแกรม Disk Defragmenter และเพื่อที่จะรันโปรแกรม Disk Defragmenter6 จากเดสก์ทอปของวินโดวส์ ให้คลิกที่ปุ่ม Start แล้วชี้ไปที่ Programs จากนั้นชี้ไปที่ Accessories และชี้ไปที่ System Tools ท้ายสุดให้คลิกที่ Disk Defragmenter

  1. ซีดีรอม
  • อาการเสีย : คอมพิวเตอร์ไม่สามารถอ่านแผ่นซีดีได้

สาเหตุ : ไม่ได้วางซีดีในไดร์ฟในตำแหน่งที่ถูกต้อง

แนวทางการซ่อม : ถ้าคุณมีซีดีไดร์ฟแบบโหลดด้วยถาด ให้กดปุ่มนำแผ่นซีดีออก แล้วค่อย ๆ กดแผ่นซีดีลงในตำแหน่ง ที่เหมาะสมจากนั้นโหลดแผ่นเข้าไปใหม่

  • อาการเสีย : คอมพิวเตอร์ไม่สามารถอ่านแผ่นซีดีได้

สาเหตุ : ระบบไม่รู้จักซีดีไดร์ฟ

แนวทางการซ่อม : ปิดคอมพิวเตอร์ แล้วคอยอย่างน้อย 30 วินาที จากนั้นเปิดคอมพิวเตอร์ ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

  • อาการเสีย : คอมพิวเตอร์ไม่สามารถอ่านแผ่นซีดีได้

สาเหตุ : ใส่แผ่นซีดีกลับข้าง

แนวทางการซ่อม : นำแผ่นซีดีออก แล้วพลิกแผ่นซีดีกลับ จากนั้นโหลดเข้าไปใหม่

  • อาการเสีย : คอมพิวเตอร์ไม่สามารถอ่านแผ่นซีดีได้

สาเหตุ : แผ่นซีดีสกปรก

แนวทางการซ่อม : ทำความสะอาดแผ่นซีดีด้วยชุดทำความสะอาด

  1. อุปกรณ์ใหม่
  • อาการเสีย : คอมพิวเตอร์ไม่รู้จักอุปกรณ์ใหม่ว่าเป็นส่วนหนึ่งของคอมพิวเตอร์

สาเหตุ : ไม่ได้ตั้งค่าคอนฟิกคอมพิวเตอร์ของคุณหลังจากติดตั้งอุปกรณ์ใหม่

แนวทางการซ่อม : ถ้าเป็นอุปกรณ์แบบปลั๊กแอนด์เพลย์วินโดวส์จะรู้จักอุปกรณ์นั้นและตั้งค่า

คอนฟิกให้โดยอัตโนมัติ แต่ถ้าเป็นอุปกรณ์ที่ไม่ใช่ปลั๊กแอนด์เพลย์ให้อ่านเอกสารที่มาพร้อมกับอุปกรณ์สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งค่าคอนฟิก

  • อาการเสีย : คอมพิวเตอร์ไม่รู้จักอุปกรณ์ใหม่ว่าเป็นส่วนหนึ่งของคอมพิวเตอร์

สาเหตุ : สายเคเบิลที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ใหม่เข้ากับคอมพิวเตอร์นั้นหลวม หรือยังไม่ได้เสียบสายไฟของอุปกรณ์

แนวทางการซ่อม : เสียบสายไป และตรวจดูว่าอุปกรณ์นั้นต่ออยู่กับคอมพิวเตอร์อย่างแน่นหนา

 

 

 

  • อาการเสีย : คอมพิวเตอร์ไม่รู้จักอุปกรณ์ใหม่ว่าเป็นส่วนหนึ่งของคอมพิวเตอร์

สาเหตุ : เมื่อคอมพิวเตอร์แนะนำคุณให้เปลี่ยนแปลงค่าคอนคอนฟิกูเรชันของระบบ แนวทางการซ่อม : ปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ แล้วเปิดใหม่อีกครั้ง คุณจะเห็นข้อคุณไม่ได้ยอมรับการ เปลี่ยนแปลงเหล่านั้น

 

  1. จอภาพ
  • อาการเสีย : อักษรต่าง ๆ ที่ปรากฏบนหน้าจอมืดมัว

สาเหตุ : ไม่ได้ปรับตัวควบคุมความสว่างอย่างเหมาะสม

การแก้ปัญหา : ปรับตัวควบคุมความสว่างที่อยู่บนหน้าจอ

  • อาการเสีย : หน้าจอว่างเปล่า

สาเหตุ : สายเคเบิลที่ต่อเชื่อมจอภาพเข้ากับ คอมพิวเตอร์นั้นหลวมยังหรือไม่ได้เสียบสายจอภาพ

แนวทางการซ่อม: เสียบสายไป และตรวจดูให้แน่ใจว่าช่องเสียบจอภาพนั้นเชื่อมต่ออยู่กับ คอมพิวเตอร์อย่างเหมาะสมและแน่นพอ

  • อาการเสีย : หน้าจอว่างเปล่า

สาเหตุ : คุณได้ติดตั้งยูทิลิตีที่ทำให้หน้าจอว่างเปล่า

แนวทางการซ่อม: กดคีย์ใด ๆ หรือเคลื่อนไหวเมาส์ หน้าจอปัจจุบันจะปรากฏขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

  • อาการเสีย : หน้าจอว่างเปล่า

สาเหตุ : คอมพิวเตอร์อยู่ในโหมด Sleep

แนวทางการซ่อม : กดปุ่ม เปิดเครื่องด่วน หน้าจอปัจจุบันจะปรากฏขึ้นอีกครั้งหนึ่ง

 

 

  • อาการเสีย : จอภาพร้อนเกินไป

สาเหตุ : พื้นที่สำหรับระบายอากาศไม่เพียงพอให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก

แนวทางการซ่อม : เว้นพื้นที่ให้มีข้องระบายอากาศอย่างน้อย 3 นิ้ว (7.6 ซม.) ตรวจดูให้แน่ใจว่าไม่มี อะไรปิดอยู่ด้านบนของจอภาพที่ขัดขวางการหมุนเวียนของอากาศ

  1. เมาส์
  • อาการเสีย : เมาส์ไม่ตอบสนองต่อการเคลื่อนไหว

สาเหตุ : สายเมาส์เสียบไม่แน่นหนาในช่องเสียบที่ถูกต้อง ซึ่งอยู่ด้านหลังของคอมพิวเตอร์

แนวทางการซ่อม : ตรวจสอบและเสียบสายเมาส์ให้แน่น

  • อาการเสีย : เมาส์ไม่ตอบสนองต่อการเคลื่อนไหว

สาเหตุ : ไม่ได้ติดตั้งไดร์ฟเวอร์ของเมาส์ หรือ ติดตั้งไดร์ฟเวอร์ที่ไม่ถูกต้อง

แนวทางการซ่อม : ตรวจดูให้แน่ใจว่าได้ติดตั้งไดร์ฟเวอร์ของเมาส์ที่ถูกต้อง จากเดสก์ทอปของวินโดวส์ให้คลิกที่ปุ่ม Start จากนั้น ชี้ไปที่ Settings แล้วคลิกที่ Control Panel เมื่อเห็นหน้าต่าง Control Panel ให้ดับเบิ้ลคลิกที่ไอคอน Mouse แล้วคลิกที่แท็บ General

  1. เครื่องพิมพ์

อาการเสีย  : เครื่องพิมพ์ไม่ทำงาน

สาเหตุ : ไม่ได้เสียบสายไฟของเครื่องพิมพ์ หรือไม่ได้เสียบสายเคเบิลของเครื่องพิมพ์

แนวทางการซ่อม : ตรวจสอบปลายทั้งสองด้านของเครื่องพิมพ์ และสายไฟของเครื่องพิมพ์ว่ามีการเชื่อมต่ออย่างเหมาะสมหรือไม่ อย่างถูกต้องและแน่นหนา

  • อาการเสีย : เครื่องพิมพ์ไม่พิมพ์

สาเหตุ : ไม่ได้เปิดเครื่องพิมพ์

แนวทางการซ่อม : เปิดเครื่องพิมพ์

  • อาการเสีย : เครื่องพิมพ์ไม่พิมพ์

สาเหตุ : เครื่องพิมพ์ไม่ได้อยู่ในโหมด ออนไลน์

แนวทางการซ่อม : ตั้งค่าเครื่องพิมพ์ให้อยู่ในโหมดออนไลน์ เครื่องพิมพ์บางเครื่องมีปุ่มหรือ ตัวควบคุมอยู่บนแผงด้านหน้าสำหรับเปลี่ยนไปมาระหว่างโหมดออนไลน์และโหมดออฟไลน์ ถ้าเครื่องพิมพ์มีปุ่มหรือสวิตช์ ออนไลน์/ออฟไลน์ ให้เลือก ออนไลน์

 

  • อาการเสีย : เครื่องพิมพ์พิมพ์ข้อมูลออกมาเป็นขยะ

สาเหตุ : ไม่ได้ติดตั้งหรือเลือกไดร์เวอร์ของเครื่องพิมพ์ที่ถูกต้อง

แนวทางการซ่อม : ตรวจดูให้แน่ใจว่ามีการติดตั้งและเลือกไดร์เวอร์ของเครื่องพิมพ์ที่ถูกต้อง ไดร์เวอร์ที่ถูกต้องของเครื่องพิมพ์มักจะระบุโดยชื่อของเครื่องพิมพ์

  • อาการเสีย : เครื่องพิมพ์พิมพ์ข้อมูลออกมาเป็นขยะ

สาเหตุ : สายไฟของเครื่องพิมพ์ไม่ได้เชื่อมต่ออย่างเหมาะสม

แนวทางการซ่อม :ให้อ่านเอกสารที่มาพร้อมกับเครื่องพิมพ์ แล้วเชื่อมต่อสายไฟใหม่อีกครั้งหนึ่ง

  1. หน่วยความจำ
  • อาการเสีย : เปิดคอมพิวเตอร์ไม่ได้

สาเหตุ : คอมพิวเตอร์โมดูลหน่วยความจำผิดชนิด

แนวทางการซ่อม : การใช้โมดูลหน่วยความจำอื่นอาจมีผลทำให้การเริ่มระบบยากขึ้นเมื่อคุณอัพเกรดเครื่องคอมพิวเตอร์ คุณจะต้องใช้หน่วยความจำ EDO 60 นาโนวินาที

  • อาการเสีย : หน่วยความจำไม่เพียงพอที่จะรันโปรแกรม

สาเหตุ : หน่วยความจำไม่ได้รับการตั้งค่าคอนฟิกอย่างเหมาะสมสำหรับโปรแกรม

แนวทางการซ่อม : โปรแกรมจำเป็นต้องใช้หน่วยความจำจำนวนหนึ่งในการรัน ปิดโปรแกรม ใด ๆ ที่กำลังใช้อยู่เพื่อที่จะดูว่าโปรแกรมดังกล่าวจำเป็นต้องใช้หน่วยความจำเท่าใด ให้อ่าน เอกสารที่มาพร้อมกับโปรแกรมนั้น

  • อาการเสีย : คอมพิวเตอร์แสดงข้อความว่า out of memory

สาเหตุ : ค่าคอนฟิกเกอร์ชันของหน่วยความจำตั้งค่าที่ไม่ถูกต้อง , หน่วยความจำไม่พอในการรัน

แนวทางการซ่อม : ปิดโปรแกรมที่คุณกำลังใช้อยู่ อ่านเอกสารที่มาพร้อมกับโปรแกรมเพื่อดูข้อกำหนดเกี่ยวกับหน่วยความจำ คุณอาจต้องซื้อและติดตั้งหน่วยความจำเพิ่มเติม

  • อาการเสีย : คอมพิวเตอร์แสดงข้อความว่า Insufficient memory

สาเหตุ : หน่วยความจำของคอมพิวเตอร์เหลือไม่เพียงพอที่จะรัน โปรแกรม

แนวทางการซ่อม :โปรแกรมบางอย่างจะแอกทีฟอยู่ในแบ็กกราวด์เมื่อเราเปิดขึ้นมา โปรแกรมเหล่านี้ใช้หน่วยความจำบางส่วนถึงแม้ว่าจะรันอยู่ในแบ็กกราวด์ก็ตาม

  1. ระบบเสียง
  • อาการเสีย : คอมพิวเตอร์ไม่มีเสียง

สาเหตุ : มีการปิดระบบเสียง

แนวทางการซ่อม : คลิกที่ไอคอน Speaker บนทาสก์บาร์ของวินโดวส์ เมื่อบ็อกซ์ควบคุมระดับเสียง ปรากฏตรวจดูให้แน่ใจว่าเช็คบ็อกซ์ Mute ไม่มีเครื่องหมายใดอยู่มีการลดระดับเสียงให้เบาเพิ่ม ระดับเสียงโดยการกดปุ่มเพิ่มระดับเสียง (+)ที่ด้านหน้าของคอมพิวเตอร์ลำ โพงไม่ได้รับการ เชื่อมต่ออย่าง ตรวจดูให้แน่ในว่าลำโพงเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์แน่นหนาหรือไม่

 

 

 

 

  1. ไวรัส

ไวรัสคอมพิวเตอร์ในโลกนี้มีนับล้านๆ ตัวแต่คุณรู้ใหมครับว่าโดยพื้นฐานของมันแล้วมาจากแหล่งกำเหนิดที่เหมือนๆ กันซึ่งเราสามารถแบ่งประเภทของไวรัสคอมพิวเตอร์ออกมา ได้ดังนี้

  • บูตเซกเตอร์ไวรัส (Boot Sector Viruses) หรือ Boot Infector Viruses

คือไวรัสที่เก็บตัวเองอยู่ในบูตเซกเตอร์ของดิสก์ การใช้งานของบูตเซกเตอร์ คือเมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์เริ่มทำงานขึ้นมาครั้งแรก เครื่องจะเข้าไปอ่านบูตเซกเตอร์ โดยในบูตเซกเตอร์จะมีโปรแกรมเล็ก ๆ ไว้ใช้ในการเรียกระบบปฏิบัติการขึ้นมาทำงาน

การทำงานของบูตเซกเตอร์ไวรัส คือ จะเข้าไปแทนที่โปรแกรมที่อยู่ในบูตเซกเตอร์ โดยทั่วไปแล้วถ้าติดอยู่ในฮาร์ดดิสก์ จะเข้าไปอยู่บริเวณที่เรียกว่า Master Boot Sector หรือ Partition Table ของฮาร์ดดิสก์นั้น ถ้าบูตเซกเตอร์ของดิสก์ใดมีไวรัสประเภทนี้ติดอยู่ ทุก ๆ ครั้งที่บูตเครื่องขึ้นมา เมื่อมีการเรียนระบบปฏิบัติการ จากดิสก์นี้ โปรแกรมไวรัสจะทำงานก่อนและเข้าไปฝังตัวอยู่ในหน่วยความจำเพื่อเตรียมพร้อมที่จะทำงานตามที่ได้ถูกโปรแกรม มา ก่อนที่จะไปเรียนให้ระบบปฏิบัติการทำงานต่อไป ทำให้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

  • โปรแกรมไวรัส (Program Viruses) หรือ File Intector Viruses

คือไวรัสอีกประเภทหนึ่งที่จะติดอยู่กับโปรแกรม ซึ่งปกติจะเป็นไฟล์ที่มีนามสกุลเป็น COM หรือ EXE และบางไวรัสสามารถเข้าไปอยู่ในโปรแกรมที่มีนามสกุลเป็น SYS ได้ด้วยการทำงานของไวรัสประเภทนี้ คือ เมื่อมีการเรียกโปรแกรมที่ติดไวรัส ส่วนของไวรัสจะทำงานก่อนและจะถือโอกาสนี้ฝังตัวเข้าไ ปอยู่ในหน่วยความจำทันทีแล้วจึงค่อยให้โปรแกรมนั้นทำ งานตามปกติ เมื่อฝังตัวอยู่ในหน่วยความจำแล้วหลังจากนี้หากมีการ เรียกโปรแกรมอื่น ๆ ขึ้นมาทำงานต่อ ตัวไวรัสจะสำเนาตัวเองเข้าไปในโปรแกรมเหล่านี้ทันที เป็นการแพร่ระบาดต่อไป นอกจากนี้ไวรัสนี้ยังมีวิธีการแพร่ระบาดอีกคือ เมื่อมีการเรียกโปรแกรมที่มีไวรัสติดอยู่ ตัวไวรัสจะเข้าไปหา โปรแกรมอื่น ๆ ที่อยู่ติดเพื่อทำสำเนาตัวเองลงไปทันที แล้วจึงค่อยให้โปรแกรมที่ถูกเรียกนั้นทำงานตามปกติต่อไป

 

 

  • ม้าโทรจัน (Trojan Horse)

คือโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้นมาให้ทำตัวเหมือนว่าเป็นโปรแกรมธรรมดา ทั่ว ๆ ไป เพื่อหลอกล่อผู้ใช้ให้ทำการเรียนขึ้นมาทำงาน แต่เมื่อถูกเรียกขึ้นมา ก็จะเริ่มทำลายตามที่โปรแกรมมาทันที ม้าโทรจันบางตัวถูกเขียนขึ้นมาใหม่ทั้งชุด โดยคนเขียนจะทำการตั้งชื่อโปรแกรมพร้อมชื่อรุ่นและคำ อธิบาย การใช้งาน ที่ดูสมจริง เพื่อหลอกให้คนที่จะเรียกใช้ตายใจ

จุดประสงค์ของคนเขียนม้าโทรจันคือเข้าไปทำอันตรายต่อ ข้อมูลที่มีอยู่ในเครื่อง หรืออาจมีจุดประสงค์เพื่อที่จะล้วง เอาความลับของระบบคอมพิวเตอร์ ม้าโทรจันถือว่าไม่ใช่ไวรัส เพราะเป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้นมาโดด ๆ และจะไม่มีการเข้าไปติดในโปรแกรมอื่นเพื่อสำเนาตัวเอง แต่จะใช้ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้ใช้ เป็นตัวแพร่ระบาดซอฟต์แวร์ที่มี ม้าโทรจันอยู่ในนั้นและนับว่าเป็นหนึ่งในประเภทของโปรแกรมที่มีความอันตรายสูง เพราะยากที่จะตรวจสอบและ สร้างขึ้นมาได้ง่าย ซึ่งอาจใช้แค่แบต์ไฟล์ก็สามารถโปรแกรมม้าโทรจันได้

 

  • โพลีมอร์ฟิกไวรัส (Polymorphic Viruses)

คือชื่อที่ใช้เรียกไวรัสที่มีความสามารถในการแปรเปลี่ยนตัวเอง ได้เมื่อมีการสร้างสำเนาตัวเองเกิดขึ้น ซึ่งอาจได้ถึงหลายร้อยรูปแบบ ผลก็คือ ทำให้ไวรัสเหล่านี้ยากต่อการถูกตรวจจัดโดยโปรแกรมตรว จหาไวรัสที่ใช้วิธีการสแกนอย่างเดียว ไวรัสใหม่ ๆ ในปัจจุบันที่มีความสามารถนี้เริ่มมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

  • สทิลต์ไวรัส (Stealth Viruses) เป็นชื่อเรียกไวรัสที่มีความสามารถในการพรางตัวต่อกา รตรวจจับได้ เช่น ไฟล์อินเฟกเตอร์ ไวรัสประเภทที่ไปติดโปรแกรม ใดแล้วจะทำให้ขนาดของ โปรแกรมนั้นใหญ่ขึ้น ถ้าโปรแกรมไวรัสนั้นเป็นแบบสทิสต์ไวรัส จะไม่สามารถตรวจดูขนาดที่แท้จริงของโปรแกรมที่เพิ่มขึ้นได้ เนื่องจากตัวไวรัสจะเข้าไปควบคุมดอส เมื่อมีการใช้คำสั่ง DIR หรือโปรแกรมใดก็ตามเพื่อตรวจดูขนาดของโปรแกรม ดอสก็จะแสดงขนาดเหมือนเดิม ทุกอย่างราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

  • Macro viruses

คือไวรัสที่จะติดต่อกับไฟล์ซึ่งใช้เป็นต้นแบบ (template) ในการสร้างเอกสาร (documents หรือ spreadsheet) หลังจากที่ต้นแบบในการใช้สร้างเอกสาร ติดไวรัสแล้ว ทุก ๆ เอกสารที่เปิดขึ้นใช้ด้วยต้นแบบอันนั้นจะเกิดความเสี ยหายขึ้น

วิธีป้องกันไวรัส

อย่าเปิดอ่านอีเมลแปลก ๆ เวลาที่คุณเช็กอีเมลถ้าเผอิญเจออีเมล์ชื่อแปลกที่ไม่รู้จักให้สงสัยไว้ก่อนเลยว่าต้องมีไวรัสแน่นอน แม้ว่าชื่อหัวข้ออีเมลจะดูเป็นมิตรแค่ไหนก็อย่าเผลอกดเข้าไปเด็ดขาดล่ะ

ใช้โปรแกรมตรวจจับและกำจัดไวรัส (Anti-virus) ต้องยอมรับว่าไม่มีโปรแกรมตรวจจับและกำจัดไวรัสโปรแกรมใดสมบูรณ์แบบจะต้องอัพเดตโปรแกรมที่ใช้ตรวจจับและกำจัดไวรัสอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ครอบคลุมถึงไวรัสชนิดใหม่ ๆ

อย่าโหลดเกมส์มากเกินไป เกมคอมพิวเตอร์จากเว็บไซต์ต่าง ๆ อาจมีไวรัสซ่อนอยู่ไม่ควรโหลดมาเล่นมากเกินไปและควรโหลดจากเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้เท่านั้นบางทีเว็บไซต์จะมีเครื่องหมายบอกว่า “No virus หรือ Anti virus” อยู่แบบนี้ถึงจะไว้ใจได้

สแกนไฟล์ต่าง ๆ ทุกครั้งก่อนดาวน์โหลดไฟล์ทุกประเภท ควรทำการสแกนไฟล์ รวมทั้งข้อมูลจากภายนอกก่อนเข้ามาใช้ในเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น CD, Diskette หรือ Handydrive ต้องใช้โปรแกรมค้นหาไวรัสเสียก่อน

หมั่นตรวจสอบระบบต่าง ๆ ควรตรวจสอบระบบต่าง ๆ ของเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างสม่ำเสมอ เช่น หน่วยความจำ, การติดตั้งโปรแกรมใหม่ ๆ ลงไป, อาการแฮงค์ (Hang) ของเครื่องเกิดจากสาเหตุใด บ่อยครั้งหรือไม่ ซึ่งคุณอาจจะต้องติดตั้งโปรแกรมพวกบริการ (Utilities) ต่าง ๆ เพิ่มเติมในเครื่องด้วย

 

 

 

  1. ระบบเครือข่ายหรืออินเตอร์เน็ต
  • อาการเสีย : เชื่อมต่อแลนไม่ติด

สาเหตุ   :  สายแลนหลวม หรือ เสียบไม่แน่น

แนวทางการซ่อม  :  ถอดสายแลนออกแล้วเสียบใหม่

  • อาการเสีย :    เชื่อมต่อแลนไม่ติด

สาเหตุ  :  Disable net work  ไว้

แนวทางการซ่อม :   start  >> control >> network connections >>คลิกขวาที่local area connection >>เลือก Enable

  • อาการเสีย :    เชื่อมต่อแลนไม่ติด

สาเหตุ  :  เซทค่า IP ไม่ถูกต้อง

แนวทางการซ่อม   :  แก้ค่า IP ของเครื่อง โดยดูได้จากขั้นตอนการใช้งาน

  • อาการเสีย :    เชื่อมต่อแลนไม่ติด

สาเหตุ  :  ระบบอยู่ในช่วงเวลารีเซท

แนวทางการซ่อม :  รอประมาณ 15-20 นาที ระบบจะทำงานอัตโนมัติ

  • อาการเสีย : เชื่อมต่อติดแต่เข้าเว็บไม่ได้

สาเหตุ  :  Internet Explorer  เซทค่า  proxy  ไว้

แนวทางการซ่อม   :  เปิด  IE. >> Tools >> Internet option >>เข้าไปที่แท็บ connection >>Lan settings >>เชคP ที่ช่อง   Automatically detect setting เพียงช่องเดียว/หรือเอาเครื่องหมายP ออกทุกช่องก็ได้เช่นกัน

 

 

  • อาการเสีย :  เชื่อมต่อติดแต่เข้าเว็บไม่ได้

สาเหตุ  :  Server ISP ล่ม , สายสัญญาณขาด

แนวทางการซ่อม  : แจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อทำการแจ้ง ISP ต่อไป แล้วรอจนกว่า ISP จะทำการแก้ไขเสร็จ

  • อาการเสีย :  เชื่อมต่อติดแต่เข้าเว็บไม่ได้

สาเหตุ  :  IE. ติดไวรัส

แนวทางการซ่อม  : เปลี่ยนไปใช้ web browser ตัวอื่น  เช่น  firefox3.5 หรือ google chromeหรือ Format เครื่อง ลงวินโดว์ใหม่

  • อาการเสีย :  เข้าได้บางเว็บ  บางเว็บเข้าไม่ได้

สาเหตุ  :  server web นั้นๆล่ม หรือ ปิดปรับปรุง

แนวทางการซ่อม  :  รอเว็บเปิดดำเนินการ

  • อาการเสีย :  เข้าได้บางเว็บ  บางเว็บเข้าไม่ได้

สาเหตุ  :  เครือข่ายอินเตอร์เน็ต ISP มีปัญหา

แนวทางการซ่อม :  แจ้งผู้ดูแลระบบ

  • อาการเสีย :  เข้าได้บางเว็บ  บางเว็บเข้าไม่ได้

สาเหตุ  :  เป็นเว็บที่ถูก บล็อกไว้

แนวทางการซ่อม : ไม่สามารถใช้งานเว็บที่บล็อกไว้ได้ เนื่องจากอาจเป็นเว็บที่มี  malware ที่สามารถเข้ามาทำลายระบบ หรือ ทำลายเครื่องของคุณได้ / เว็บบิทจะถูกบล็อกเป็นส่วนใหญ่เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้กระทำผิด ตามพ.ร.บ. คอมฯ2550 โดยไม่รู้ตัว และเพื่อมิให้ระบบถูกใช้ Bandwidth มากเกินไป